5 เช็กลิสต์สำคัญก่อนเซ็นสัญญาและวิธีคัดเลือกบริษัท IT Outsource

5 เช็กลิสต์สำคัญก่อนเซ็นสัญญา
การตัดสินใจเลือกใช้ บริการ IT Outsource ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการความคล่องตัว แต่บ่อยครั้งที่ผู้บริหารต้องปวดหัวเพราะเลือกผิด ไปเจอผู้ให้บริการที่ทำหน้าที่เป็นแค่ "คนส่งคน" (Recruiter) แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็น "ผู้ดูแลระบบ" (Service Provider) อย่างแท้จริง
เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าและได้พันธมิตรที่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง นี่คือ 5 เช็กลิสต์สำคัญที่คุณต้องกางดูก่อนจรดปากกาเซ็นสัญญาจ้าง IT Outsource ครับ

1. มาตรฐานการคัดกรองคน (Quality Screening Process)
หัวใจสำคัญของบริการนี้คือคุณภาพของ พนักงาน IT Outsource ที่จะถูกส่งมานั่งทำงานที่ออฟฟิศคุณ
- สิ่งที่ต้องเช็ก: บริษัทมีกระบวนการทดสอบทักษะ (Technical Test) และสัมภาษณ์ทัศนคติ (Attitude) ก่อนส่งมาให้เราเลือกหรือไม่? หรือแค่หยิบเรซูเม่จากเว็บหางานแล้วส่งต่อให้เราเลย?
- ทำไมต้องแคร์: หากบริษัทคัดกรองมาดี คุณจะประหยัดเวลาสัมภาษณ์เองไปได้มหาศาล และได้คนที่พร้อมเริ่มงานได้ทันที
2. มีทีมเทคนิคหนุนหลัง (Technical Backup Team)
ข้อนี้คือเส้นแบ่งระหว่าง "บริษัทจัดหางานทั่วไป" กับ "บริษัท IT Consult มืออาชีพ"
- สิ่งที่ต้องเช็ก: พนักงาน IT Outsource ที่มาประจำไซต์งาน มีทีม Senior Engineer หรือ Technical Consultant คอยให้คำปรึกษาอยู่เบื้องหลังหรือไม่?
- ทำไมต้องแคร์: คนคนเดียวไม่สามารถรู้ทุกเรื่อง หากเกิดปัญหาใหญ่ (Critical Issue) เช่น Server ล่ม พนักงานหน้างานต้องมีทีม Backup ช่วยแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยให้แก้ตามมีตามเกิดจนงานเสียหาย
3. การันตีการหาคนทดแทน (Replacement Guarantee)
ความเสี่ยงเรื่องคนลาออกเป็นเรื่องปกติ แต่ความรับผิดชอบต้องเป็นของผู้ให้บริการ
- สิ่งที่ต้องเช็ก: ในสัญญา บริการ IT Outsource ระบุชัดเจนหรือไม่ว่า หากพนักงานลาออก หรือทำงานไม่ได้มาตรฐาน บริษัทต้องหาคนใหม่มาทดแทนภายในกี่วัน (SLA)?
- ทำไมต้องแคร์: เพื่อป้องกันงานสะดุด หากไม่มีข้อนี้ คุณอาจต้องรอคนใหม่เป็นเดือนโดยที่งานไม่เดิน
4. มาตรฐานความปลอดภัยข้อมูล (Data Security & Compliance)
การให้คนนอกเข้ามาดูแลระบบภายใน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
- สิ่งที่ต้องเช็ก: บริษัทมีการเซ็นสัญญาปกปิดความลับ (NDA) ที่รัดกุมหรือไม่? มีมาตรฐาน ISO หรือปฏิบัติตาม PDPA หรือไม่?
- ทำไมต้องแคร์: เพื่อความมั่นใจว่าข้อมูลความลับของบริษัทจะไม่รั่วไหลไปสู่คู่แข่ง
5. ความเชี่ยวชาญที่ตรงโจทย์ (Specialized Expertise)
อย่าเลือกแค่เพราะราคาถูก แต่จงเลือกที่ความ "ถนัด"
- สิ่งที่ต้องเช็ก: บริษัทนี้ถนัดเรื่องอะไรเป็นพิเศษ? หากคุณใช้ระบบ ERP อย่าง Odoo ก็ควรเลือกบริษัท IT Outsource ที่มีความรู้เรื่อง Business Software ด้วย ไม่ใช่แค่ซ่อมคอมพิวเตอร์เป็นอย่างเดียว
- ทำไมต้องแคร์: การได้คนที่มีพื้นฐานความรู้ตรงกับระบบที่คุณใช้ จะช่วยให้การสื่อสารและการแก้ปัญหารวดเร็วขึ้นหลายเท่า
สรุป
การเลือกบริษัท IT Outsource ไม่ใช่การซื้อสินค้าสำเร็จรูป แต่คือการเลือก "พาร์ทเนอร์" ที่จะมาดูแลลมหายใจของธุรกิจคุณ หากบริษัทใดผ่านเช็กลิสต์ทั้ง 5 ข้อนี้ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ "คู่คิด" ที่พร้อมเติบโตไปกับคุณ ไม่ใช่แค่คู่ค้าที่ส่งบิลเก็บเงินทุกเดือนแน่นอน
สารบัญ
related blogprocess
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ




