เลือกบริษัท IT Outsource : จ้างอย่างไรให้ได้ "คนเก่ง" และ "งานไม่สะดุด"

ในยุคที่เทคโนโลยีหมุนเร็ว การหาพนักงานไอทีประจำ (In-house) กลายเป็นความท้าทายของหลายองค์กร ทั้งปัญหาพนักงานลาออกบ่อย หาคนไม่ทัน หรือทักษะไม่ตรงงาน บริการ IT Outsource จึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ แต่ท่ามกลางผู้ให้บริการมากมาย เราจะเลือกอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด?

นี่คือ 4 ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนเซ็นสัญญาจ้าง:

1.มาตรฐานการคัดกรอง

ไม่ใช่แค่บริษัทที่มีฐานข้อมูลคนเยอะ แต่ต้องมีกระบวนการคัดกรองที่เข้มข้น บริษัท Outsource ที่ดีต้องทำหน้าที่เหมือน HR เฉพาะทาง คือมีการทดสอบทักษะ (Technical Test) และสัมภาษณ์เบื้องต้นเพื่อดูทัศนคติ (Soft Skill) ก่อนส่ง Profile ให้ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าคนที่ส่งมา "พร้อมทำงาน" จริงๆ ไม่ใช่แค่ส่งมาให้ครบตามจำนวน

2.มีทีมสนับสนุน

ข้อนี้สำคัญที่สุดและมักถูกมองข้าม การจ้างพนักงาน Outsource ไม่ควรเหมือนการจ้าง Freelance ที่ต้องทำงานตัวคนเดียว บริษัทผู้ให้บริการควรมีทีม Technical Consultant หรือ Senior Engineer คอยเป็นที่ปรึกษา (Back Office Support) ให้กับพนักงานหน้างาน เมื่อเจอปัญหาซับซ้อนเกินกว่าเจ้าหน้าที่หน้างานจะแก้ได้ ต้องมีทีมสนับสนุนช่วยแก้ไขทันที เพื่อให้งานของคุณไม่สะดุด

3.การรับประกันและทดแทน

ความเสี่ยงเรื่องคนลาออกเป็นเรื่องปกติ แต่ความรับผิดชอบของผู้ให้บริการคือ "ความต่อเนื่อง" คุณต้องตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญา (SLA) ว่าหากพนักงานลาออก หรือไม่ผ่านเกณฑ์การทำงาน บริษัทสามารถจัดหาคนใหม่มาทดแทนได้ภายในกี่วัน (โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 15-30 วัน) และมีมาตรการถ่ายโอนงาน (Handover) อย่างไรไม่ให้ข้อมูลสูญหาย

4.ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

เลือกบริษัทที่ "เก่ง" ในเรื่องที่คุณขาด หากคุณต้องการคนดูแลระบบบัญชีหรือ ERP ควรเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานด้าน Business Software หากคุณต้องการคนดูแล Server ควรเลือกบริษัทที่มีมาตรฐานด้าน Infrastructure การเลือก Vendor ที่ตรงสายจะทำให้คุณได้พนักงานที่เข้าใจเนื้องานลึกซึ้งกว่าบริษัทจัดหางานทั่วไป

สรุป การเลือกคู่ค้า IT Outsource ไม่ใช่แค่การเปรียบเทียบ "ราคาต่อหัว" ที่ถูกที่สุด แต่คือการมองหาพันธมิตรที่ช่วย "ลดความเสี่ยง" และ "เพิ่มเสถียรภาพ" ให้ระบบไอทีของคุณ เพื่อให้คุณโฟกัสกับการเติบโตของธุรกิจได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคน