วิกฤตคนไอที!

ในยุคที่ทุกองค์กรต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุด นั่นคือ "วิกฤตขาดแคลนบุคลากรไอที" (Tech Talent Shortage)

HR หลายท่านคงทราบดีว่าการประกาศรับสมัครงานตำแหน่งไอทีในปัจจุบันนั้นยากเย็นเพียงใด ทั้งจำนวนผู้สมัครที่น้อยนิด การแข่งขันแย่งตัวที่รุนแรง ค่าตัวที่พุ่งสูงขึ้น และปัญหาโลกแตกอย่างการที่พนักงานลาออกบ่อยจนงานสะดุด ในสถานการณ์ที่กดดันเช่นนี้ การหันมาใช้ "บริการ IT Outsource" จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกเสริมอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น "ทางรอดเชิงกลยุทธ์" ที่ช่วยให้ HR บริหารจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และนี่คือเหตุผลสำคัญว่าทำไมโมเดลนี้ถึงตอบโจทย์ HR ยุคใหม่:

1. ลดเวลาสรรหา จบปัญหารอคนนาน (Speed to Hire)

กระบวนการจ้างพนักงานไอทีประจำมักกินเวลานานหลายเดือน ตั้งแต่คัดกรองเรซูเม่ สัมภาษณ์รอบแรก ทดสอบทางเทคนิค และเจรจาต่อรอง แต่ด้วยการใช้ บริการ IT Outsource จากบริษัทชั้นนำ พวกเขามีฐานข้อมูลผู้สมัครพร้อมใช้งานอยู่แล้ว HR เพียงแค่แจ้งคุณสมบัติ (Job Description) ที่ต้องการ บริษัทผู้ให้บริการก็สามารถส่ง พนักงาน IT Outsource ที่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้นมาให้สัมภาษณ์ได้ทันที ช่วยย่นระยะเวลาจากหลักเดือนเหลือเพียงหลักสัปดาห์

2. เปลี่ยนต้นทุนคงที่ เป็นค่าใช้จ่ายที่ควบคุมได้ (Cost Efficiency)

การจ้างพนักงานประจำ 1 คน มี "ต้นทุนแฝง" มหาศาล ทั้งสวัสดิการ ประกันสังคม โบนัส กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ค่าคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ แต่การจ้างในรูปแบบ IT Outsource จะช่วยเปลี่ยนต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) เหล่านี้ให้เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OpEx) แบบเหมาจ่ายรายเดือนที่ชัดเจน ช่วยให้ HR และฝ่ายการเงินวางแผนงบประมาณได้แม่นยำขึ้น และลดภาระงานเอกสารด้าน Payroll ลงไปได้มาก

3. หมดห่วงเรื่อง Turnover และความเสี่ยงในการจ้างผิด

ความเสี่ยงสูงสุดของ HR คือการรับคนมาแล้วทำงานไม่ได้ หรือทำได้ไม่นานก็ลาออก ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจ การใช้ บริการ IT Outsource ช่วยถ่ายโอนความเสี่ยงนี้ไปยังผู้ให้บริการ เพราะบริษัท Outsource มืออาชีพจะมีระบบการันตีการหาคนทดแทน (Replacement) หากพนักงานลาออก และมีกระบวนการคัดกรองทักษะทางเทคนิคที่เข้มข้นโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ HR มั่นใจได้ว่าจะได้คนที่ "ตรงปก" และมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน

สรุป: กลยุทธ์ใหม่ของ HR

การเลือกใช้ IT Staff Outsourcing ไม่ใช่การผลักภาระ แต่คือการทำงานที่ชาญฉลาดขึ้น (Work Smarter) เพื่อให้ HR หลุดพ้นจากวงจรการสรรหาคนไอทีที่ไม่สิ้นสุด และมีเวลาไปโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญกว่าอย่างการพัฒนาบุคลากรและการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตที่ยั่งยืน